สรุป 4 เรื่องสำคัญจากงาน Cannes Lions 2019 ที่นักการตลาดและนักโฆษณาจำเป็นต้องรู้เอาไว้!

เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Ad Addict ได้มีโอกาสไปร่วมงานประกาศรางวัลประกวดโฆษณาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอย่าง Cannes Lions International Festival of Creativity ณ เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศสมา

ต้องบอกบอกเลยว่าทางเราเองโคตรตื่นเต้น และเป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้ไปงานนี้มาในฐานะสื่อ เพราะงานนี้คือยิ่งใหญ่มากกกกก ตลอด 5 วันมีวิทยากรจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ความรู้และแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานและความคิดสร้างสรรค์มากมายหลายเวทีสุดๆ ทั้งโซนร้อน โซนร่ม โซนกิจกรรม

ภาพบรรยากาศภายในงาน

ซึ่งจากที่แอดได้เข้าไปฟังใน Session ต่างๆ ตลอดเวลา 5 วันของงานในปีนี้ พบว่ามีประเด็นที่สำคัญๆ และเป็นสิ่งที่ Speaker หลายคนเน้นย้ำกันมากๆ อยู่ 4 เรื่องด้วยกัน

วันนี้เลยอยากจะหยิบจับมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน เพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ แน่นอน! ลองอ่านรายละเอียดในแต่ละภาพ หรือในเว็บได้เลยจ้าาาา

ฟังแบบ Podcast >> https://adaddictth.com/2019/07/14/podcastep18/

1. ประสบการณ์

หากพูดถึงคำข้างต้น อาจจะดูไม่ได้แปลกใหม่อะไรนัก แต่นี่คือหนึ่งสิ่งที่วิทยากรจากแบรนด์ดังต่างๆ รวมถึงครีเอทีฟและนักการสื่อสารจากเอเจนซีชื่อดังระดับโลก เน้นย้ำสุดๆ ว่า

ปัจจุบันนี้ เราไม่ควรสร้างโฆษณาอีกต่อไป แต่เราต้องสร้างประสบการณ์บางอย่างสำหรับกลุ่มผู้บริโภคของเรา เพื่อให้เราได้มีส่วนร่วม ได้สัมผัสประสบการณ์ และได้ “รู้สึก” อะไรบางอย่างร่วมกับแบรนด์ของเรา

มีประโยคหนึ่งที่หลายๆ Session ล้วนหยิบมาเป็น Quote เหมือนกันหมดเลยคือ “People will forget what you said, people will forget what you did, but people will never forget how you made them feel” 

ถ้าแปลไทยก็คือ “คนเราจะลืมกับสิ่งที่เราพูด หรือสิ่งที่เราทำ แต่เขาจะไม่ลืมสิ่งที่เราทำให้เขารู้สึก” และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับวงการโฆษณาและการสื่อสารปัจจุบันเช่นกัน

ดังนั้น หากตอนนี้คุณเป็นเอเจนซีหรือแบรนด์ที่กำลังจะต้องทำการสื่อสารหรือโฆษณา โปรดจำเอาไว้ว่า ต่อไปนี้ คิดให้กว้างขึ้น สร้างให้เป็นประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ หนัง 1 เรื่องจบ โลกเราไม่ต้องการสิ่งนั้นอีกต่อไปแล้ว!

ตัวอย่างการสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจจาก Burger King (ได้รางวัลเยอะโคตร งานนี้)

2. ความเท่าเทียม

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เห็นในงาน Cannes Lions 2019 โคตรรรรรเยอะเลยจ้า (เยอะจนรู้สึกว่ามันเริ่มไม่จริงละ 5555) ไม่ว่าจะเป็น Session ต่างๆ ที่เปิดโอกาสให้ Discuss เกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมาก

โดยเวลาเราพูดถึง “ความเท่าเทียมนี้” ไม่ใช่แค่เรื่อง เพศ เช่น เพศที่ 3 หรือเรื่อง สีผิว แต่ยังรวมถึง เชื้อชาติ ศาสนา หรือแม้แต่ความผิดปกติทางร่างกายต่างๆ (มี Session นึงพูดถึงเจาะเรื่อง Paralympic เลยด้วย) อีกด้วย

ดังนั้น สิ่งนี้เหมือนตอนนี้ทั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม และการยอมรับในทุกความแตกต่างเป็นอย่างมาก สังเกตได้อีกอย่างจากผลงานที่ได้รับรางวัลใหญ่ๆ ในปีนี้ ล้วนมาจากประเด็นนี้เป็นส่วนใหญ่เลยทีเดียว

ตัวอย่างเช่นงาน Grand Prix จาก Nike แคมเปญ Just do it ที่มี Colin Kaepernick ออกมาแสดงจุดยืนความเชื่อของ Nike และสามารถสร้าง Impact ให้กับสังคมแบบโคตรๆ 

เห็นแบบนี้แล้ว หลายคนคงเข้าใจว่าทำไมปีนี้งานไทย และเอเชียได้รางวัลกันค่อนข้างน้อยมาก เพราะแถบบ้านเรา ปัญหานี้ยังไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่มาก แต่ตอนนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญมากๆ (โดยเฉพาะปีนี้)

3. เทคโนโลยี

เรื่องนี้จากที่วิทยากรและพี่ๆ หลายคนที่รู้จักบอกเอาไว้ ว่าปีที่แล้วเรื่องที่คนพูดกันเยอะมากในงาน Cannes Lions 2018 คือเกี่ยวกับ AR VR AI ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังมาในช่วงนั้น และคนกำลังเห่อกันมากเลยทีเดียว

แต่ในปีนี้เปลี่ยนไป เนื้อหาส่วนใหญ่ไม่ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่แปลกใหม่อะไรมาก แต่เป็นการพูดถึงการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสื่อสารอย่างแท้จริงมากกว่า

ซึ่งก็เป็นเหมือนการปรับตัวอย่างหนึ่ง เช่น ปีก่อนเราอาจจะเกิดคำถามเกี่ยวกับ AI ว่ามันจะมาทำงานแทนเราหรือเปล่า แต่ปีนี้เริ่มหันมาถามกันว่า เราจะอยู่กับ AI ยังไงให้มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ดีที่สุด ประมาณนี้

ดังนั้น ตอนนี้การที่แบรนด์และเอเจนซีจะต้องทำความเข้าใจเทคโนโลยีต่างๆ มันเป็นพื้นฐานแล้วที่แต่ละคนต้องเรียนรู้กัน เพราะ ณ จุดนี้ คือการเลือกหยิบจับ และพัฒนาการสื่อสาร โดยการนำเทคโนโลยีเหล่านั้นนี่แหละ มาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประสบการณ์ในการสื่อสารแล้ว

ตัวอย่างงานหนึ่งที่นำไอเดีย+เทคโนโลยีเข้าด้วยกันได้อย่างเจ๋งโคตร

4. ธุรกิจโฆษณา

ปีนี้มีหลาย Session เหมือนกัน ที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของวงการโฆษณา อนาคตของเอเจนซี ว่าจะตายไหม? เพราะเห็นจากการปรับตัวของหลายๆ เจ้าแล้ว ดูมีแววว่าอาจจะเจ๊งอีกไม่นาน

แต่ความเป็นจริงคือ ตราบใดที่การสื่อสารเราต้องการความคิดสร้างสรรค์ เอเจนซีโฆษณาเหล่านี้ เป็นแหล่งกำเนิดของความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้ว ซึ่งเป็นมืออาชีพอีกด้วย

ดังนั้นวงการนี้ ยังไม่ตายลงอย่างแน่นอน…แต่ต้องปรับตัว

ปรับตัวอย่างไร? หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจคือ ครีเอทีฟเอเจนซียักษ์ใหญ่อย่าง Droga5 ได้เข้าไปร่วมอยู่ใต้ร่มของAccenture Interactive ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ถนัดด้านการสร้างประสบการณ์ 

สิ่งนี้จะเชื่อมโยงให้เห็นเลย (จากข้อก่อนๆ หน้านี้ด้วย) ว่าเอเจนซียุคใหม่ การสร้างสรรค์ผลงานปกติมันไม่พอแล้ว เรามีความคิดสร้างสรรค์ แต่เราก็ต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็น ให้เหมาะสม เพื่อสามารถสร้างประสบการณ์ได้ด้วย 

ดังนั้น สำหรับเอเจนซีที่ตอนนี้กำลังกลัวอยู่ บอกเลยว่าไม่ต้องกลัว วงการนี้ยังไม่เจ๊งหรอก เอเจนซีไม่ตายแน่ๆ แต่ต้องหาวิธีการปรับตัวเข้าสู่โลกใหม่ให้ได้ เน้นย้ำอีกทีว่า “ประสบการณ์” เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ณ โลก ตอนนี้

และนี่ก็คือ 4 เรื่องสำคัญที่ Ad Addict อยากหยิบจาก Cannes Lions 2019 มาฝากทุกคนนะครับ มีเรื่องน่าสนใจจากงานนี้อีกเยอะมาก ไว้จะค่อยๆ เอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ เสพกันอีกเรื่อยๆ !

ใครไม่อยากพลาดไปกด See First https://www.facebook.com/AdAddictTH/ ไว้ด้วย หรือติดตาม #AdAddictxCannesLions2019 ไว้ได้เลยจ้า